วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558

คืนที่ประทับใจ

เมื่อประมาณปีเศษที่ผ่านมา ฉันได้ย้ายที่ทำงานมาอยู่ที่ใหม่ ซึ่งที่นี่แหละที่ทำให้ฉันรู้ตัวว่าเปลี่ยนแปลงไปทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเราจะเป็นเช่นนี้ ฉันมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่งงานเมื่อสิบปีเศษมาแล้ว มีบุตร 1 คนกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยม ส่วนใหญ่ลูกก็จะอยู่กับยาย จะไป ๆ มา ๆ ประจำเพราะบ้านยายก็อยู่ไม่ห่างกันมากนัก ฉันจะอยู่บ้านคนเดียวเสมอ ๆ เพราะสามีทำงานที่ต่างจังหวัด 1 – 2 สัปดาห์จะมาสักครั้ง ทุกครั้งที่เขามาเราก็จะมีความสุขกันตามประสาผัวเมียที่แยกกันอยู่ ซึ่งก็ยอมรับว่าเราต่างก็มีความสุขมากไม่แพ้กันตลอดมาสิบปีเศษ ถึงอายุฉันจะใกล้สี่สิบแล้วก็ตาม แต่ฉันเป็นคนรูปร่างเล็ก ผิวขาวเนียน แต่งตัวดี สะอาดดูแลเอาใจใส่สุขภาพอย่างดี ควบคุมเรื่องอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ ฉันจึงดูอ่อนกว่าวัย (ไม่ได้ชมตัวเองแต่เพื่อน และสามีมักจะชมบ่อย ๆ ซึ่งมันเป็นความภาคภูมิใจและดีใจของฉันอย่างยิ่งทีเดียว) ปีเศษที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันได้ทำงานในหน้าที่ที่จะต้องใกล้ชิดกับหัวหน้าแผนกของออฟฟิศที่ทำงานอยู่ หัวหน้าฉันเขาเป็นคนใจดี อัธยาศัยไมตรีดี พูดคุยเก่งเป็นที่เคารพ รักใคร่ของลูกน้องและผู้อยู่ใกล้ชิดมาก จากความใกล้ชิดสนิทสนมที่ได้ทำงานร่วมกันเป็นประจำ ทำให้ใจฉันอดที่จะปลื้ม ชื่นชมเขาไม่ได้ รูปร่างหน้าตาก็ธรรมดาๆ แต่ยอมรับว่าเขามีเสน่ห์มาก ฉันรับอย่างไม่อายเลยว่ารู้สึกอยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากพูดอยากคุย กับเขา เวลาที่ได้อยู่ใกล้เขาแล้วมันรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกนี้มันค่อยๆ ก่อตัวมากขึ้นทุกขณะ จนน่าจะเรียกว่าเป็นความรักก็ไม่ผิด แต่ถึงฉันจะแอบรัก แอบชอบเขา ปลื้มเขาขนาดไหนก็ตามฉันก็พยายามเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้ไม่เคยแสดงออกให้ใครๆ แม้แต่ตัวเขาทราบเลยแม้แต่น้อย ในบางครั้งถ้าไม่เป็นการคิดเข้าข้างตนเองมากเกินไปแล้วฉันก็คิดว่าเขาก็อาจจะมีความรู้สึก ไม่แตกต่างจากฉันหรอก แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนที่เป็นกันเองกับลูกน้องทุกๆ คนมันจึงเป็นการยากที่จะสรุปเช่นนั้นได้ เขาให้ความสนิทสนมกับทุกๆ คน กับฉันและครอบครัวเขาก็รู้จักเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่สามีกลับมาบ้านเราก็จะเชิญเขาไปทานข้าวที่บ้านเสมอ หรือเวลาที่ครอบครัวของหัวหน้าจากต่างจังหวัดมา เขาก็จะพามารู้จักมาเยี่ยมบ่อย ๆ เช่นกัน ดังนั้นเราจึงเป็นเสมือนทั้งเพื่อนและผู้บังคับบัญชา แล้วเมื่อหลังปีใหม่ที่ผ่านมา ที่ออฟฟิศได้คัดเลือกฉันและหัวหน้าไปสัมมนาและดูงานที่จังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน เราเข้าพักในโรงแรมที่บริษัทจัดให้คนละห้อง หลังจากที่ดูงานและเสร็จสิ้นแล้วเย็นนั้นก็มีงานเลี้ยงอาหารเย็นแก่ผู้ที่เข้ารับการสัมมาก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับห้องพักเพื่อพักผ่อนเตรียมกลับในวันรุ่งขึ้น หลังจากเสร็จงานเลี้ยงที่โรงแรมจัดให้แล้วประมาณสองทุ่มเศษ หัวหน้าได้ชวนฉันลงไปนั่งฟังเพลงต่อที่ห้องชั้นล่างของโรงแรมเพราะเห็นว่ายังไม่ดึกมากนัก เราลงไปนั่งฟังเพลงเบา ๆ ในบรรยากาศสลัวๆ เขาสั่งเบียร์มาดื่มฉันก็ดื่มเป็นเพื่อนเขา ในความรู้สึกของฉันขณะนั้นฉันบอกตรง ๆ ว่ามีความสุขมาก ที่ได้นั่งอยู่ใกล้ ๆ ได้คุยกับเขา มันเหมือนกับว่าเป็นโลกของเราโดยเฉพาะ สายตาที่เขามองฉันถึงแม้ว่ามันจะค่อนข้างมืดแต่ฉันคิดว่ามันสายตาที่เปล่งแวววาวซ่อนความรู้สึกบางอย่างแบบไม่ธรรมดา เช่นปกติ คำพูด น้ำเสียง มันช่างอ่อนหวานนุ่มนวลเป็นกันเองสร้างความอบอุ่นสุขใจเหลือเกิน เบียร์หมดไปหนึ่งขวดเขาก็ชวนฉันออกเต้นรำ มันเป็นสัมผัสแรกที่เรามีต่อกันเป็นอย่างจงใจ แรกๆ ฉันรู้สึกหวาดๆ สั่นเขินไม่น้อยที่เดียวแต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ความรู้สึกก็ค่อยๆเปลี่ยนกลับกลายเป็นความอบอุ่น อ่อนหวาน นุ่มนวล ซาบซึ้งใจ ร่างของเราทั้งเบียดเสียดกันไปมาในระยะแรก ๆ แล้วต่อมาก็แนบกันสนิทคล้ายกับว่าเราต่างตั้งใจที่จะที่จะเบียดแนบชิดกัน มือของเราทั้งสองต่างก็กอดกันและกันแน่นขึ้น จนฉันเองรู้สึกร้อนซ่า ซาบซ่านขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จริงๆ รูปร่างของเราไม่แตกต่างกันมากนัก เวลายืนในลักษณะอย่างนี้จมูกเขาจะซบรดไออุ่นลมหายใจอยู่บริเวณต้นคอด้านหลังของฉัน วนเวียนอยู่บริเวณ ซอกหู แก้ม บางครั้งก็ได้กลิ่นลมหายใจของกันและกัน ฉันเริ่มมีความรู้สึกเร่าร้อนยิ่งขึ้น อารมณ์หวั่นไหวเพราะขณะนี้ตรงส่วนกลางของร่างกายเรา ต่างก็ถูไถบดเบียดกันแน่นยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนฉันรู้สึกถึง ความเป็นสันนูนกดดันตรงบริเวณท้องน้อยเหนือโหนกนูนได้อย่างชัดเจน ฉันเองก็พยายามที่จะดันเบียดส่วนเนื้อนุ่มของตนเองให้มันรับกับความแข็งแกร่งส่วนนั้นของเขาเช่นกัน ด้วยอารมณ์ที่สุดแสนจะอดกลั้นต่อไป จนรู้ตัวว่าตรงร่องหลืบแห่งความเสียวซ่านมันแฉะเยิ้มไปด้วยเมือกแห่งความต้องการ ซึ่งเขาเองถึงไม่บอกฉันก็รู้ว่าความรู้สึกเขาก็ไม่ต่างจากฉันเลย ใกล้ๆสี่ทุ่มเราจึงกลับขึ้นห้องพักด้วยอารมณ์ที่ต่างเตลิดเพลิดไปด้วยความเสน่หาที่ต่างมีต่อกันและกันเขาเข้ามาร่วมอยู่ในห้องพักของฉัน เพียงแค่ปิดประตูห้องเท่านั้นเองเราก็ต่างโผเขาหากันทันที เรายืนกอดกันแน่นตรงประตูปลายเตียงเขาดันฉันยืนพิงผนังห้องประทับรอยจูบแรกลงที่ริมฝีปากฉันอย่างนุ่มนวล อ่อนหวาน ฉันก็เผญิอรับรสจูบอันแสนประทับใจจากเขาด้วยความเต็มอกเต็มใจอย่างที่สุด รสจูบเขาช่างแสนวิเศษ ปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างสุดจะบรรยาย เราต่างแลกจูบ แลกลิ้นชิมรสกันอย่างเนิ่นนาน อย่างไม่รู้จักเบื่อ ทุกส่วนในร่างกายเราต่างเบียดเสียดกันอย่างแนบแน่นถึงแม้ว่าร่างของเราจะยังมีเสื้อผ้าอาภรณ์ปิดกั้นอยู่ก็ตาม แต่ทำไมฉันถึงได้มีอารมณ์ และมีความสุขมากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้ ฉันกอดเขาแน่นเพื่อให้โหนกเนื้อของตนเองถูกกดอัดจากอาวุธที่แข็งเป็นลำนูนอย่างถนัดขึ้น ซึ่งเขาเองก็เหมือนจะเข้าใจความต้องการของฉัน เขาก็พยายามกด ดันมันเข้ามาเบียดกับเนินเนื้อจนฉันเองถึงกับยืนขาสั่น เสียวซ่านเกร็งไปทั้งร่าง เมือกแห่งความเสียวพลั่งพลูออกมาจนฉ่ำแฉะ เพียงแค่จะเริ่มต้นเท่านั้นเขาส่งฉันถึงสวรรค์เสียแล้ว ซึ่งเขาก็คงจะสังเกตอาการของฉันออก เขาจึงประคองร่างที่อ่อนระทวยของฉันไปนอนลงที่เตียงอันอ่อนนุ่ม ในขณะที่เขาก็นอนลงที่ข้างกายของฉัน มือของเรายังคงต่างไม่ปล่อยจากร่างของกันและกัน โดยเฉพาะเขา ทั้งปาก จมูก มือ ต่างก็ซุกไซร้ จูบ ลูบไล้ไปทั่วร่างของฉัน เสื้อผ้าของเราค่อยหลุดออกจากร่างจนไม่เหลืออะไรเลยโดยเราต่างก็ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่างที่ได้สัดส่วนขาวเนียนของฉันถูกเปิดเผยออกอวดความงามอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เขาปลุกเร้าไป ปากก็ชมตลอดเวลามันช่างเป็นความสุขใจ ภาคภูมิใจเหลือเกินที่ได้ยินได้ฟังความพูดที่อ่อนหวาน ชมความสวยงาม แห่งเรือนร่างที่ดิฉันพยายามดูแลรักษามันมาเป็นอย่างดีตลอดมา ความในใจ ความต้องการที่เขามีต่อฉันถูกระบายออกมาจนหมดสิ้นในขณะที่เขากำลังทำหน้าที่สรรค์สร้างความสุข และปลุกเร้าอารมณ์บนเรือนร่างของฉัน เขาคงไม่รู้หรอกว่า สิ่งต่างๆ ที่เขากำลังปฏิบัติต่อฉันขณะนี้ ทั้งคำพูด และการกระทำ มันทำให้ฉันมีความสุขมากเหลือเกิน สุขทั้งกาย สุขทั้งใจ ฉันภูมิใจเหลือเกินที่ทำให้คนที่เรา(แอบ)รักถูกใจ ชอบใจ เขาจูบไปทั่วใบหน้า ริมฝีปาก ซอกคอ ซอกหู ซุกไซร้ เนินเนื้อที่หน้าอก ที่ขาวผ่องยองใย ถึงขนาดมันจะไม่ใหญ่โตมานักแต่มันก็ไม่เล็กจนเกินไป ถึงสภาพมันจะเหละเหลวไปตามวัยที่ใกล้จะสี่สิบก็ตามแต่ด้วยความที่เป็นคนดูแล บริหารอย่างสม่ำเสมอ มันก็ยังคงสภาพได้สวยไม่น้อยทีเดียว ดูเขาจะชอบมันมากด้วย แวะเชยชมอยู่นานมากทั้งลูบไล้ ทั้งจูบและก็กินสลับไปมาทั้งสองข้าง ส่วนยอดเม็ดสีชมพูอ่อนนั้นถึงกับแข็งเป็นไตสู้กับปลายลิ้นอันเร่าร้อนของเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ทำเขาฉันถึงกับแอ่นมันมารับรสสัมผัสอย่างลืมตัว เขาทั้งบีบทั้งขบทั้งเม้ม กัดเบาๆที่หัวนมของฉัน มันช่างทำให้ฉันทั้งสุข ทั้งเสียวเหลือเกิน ฉันได้แต่กอดเขาแน่น เขาก็กินไปชมไป แสงไฟสลัวจากหลอดเล็กบนเพดานก็สามารถมองเห็นความสวยงามได้อย่างชัดเจน เขาช่างเก่งเหลือเกิน ฉันไม่เคยสุขเคยเสียวเช่นนี้มาก่อนเลย เขาละจากเนินอกเลื่อนต่ำลงที่หน้าท้องที่เขาเนียน วนเวียนต่ำลงไปที่ท้องน้อยซบใบหน้าลงไปบนความอ่อนนุ่มตรงลอนเหนือโหนก แล้วก็ต่อลงถึงเนินเนื้อที่ค่อนข้างโหนกนูน มีขนอันอ่อนนุ่มปกคลุมพอประมาณเขาใช้มือนำทางไปก่อน ลูบไล้เบาๆลงบนเนินเนื้อ ที่แอ่นอวดอยู่ตรงหน้า เขาจองมองมันด้วยสายตาที่ฉ่ำเยิ้มบ่งบอกถึงความปรารถนาแห่งอารมณ์ มือลูบคลึงไปมาบนโหนก ปากก็ชมถึงความโหนกนูน ความอวบใหญ่ “ตัวเล็ก ๆ แต่ ทำไหมตรงนี้ถึงใหญ่จัง ” คำชมนี้ฉันรู้ดีว่าเขาไม่ได้แกล้งชมหรอกเพราะว่าสามีก็ชมเช่นนี้ตลอดมา นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ฉันเป็นปลื้มเหลือเกินที่มีความพิเศษเป็นของตนเอง เหนือหญิงคนอื่น ไม่กี่อึดใจต่อมาเขาก็ซบหน้าลงสัมผัสกับความอิ่มเอิบบนนูนเนื้อที่โดดเด่น ทำเอาฉันถึงกับสะดุ้งโหยงด้วยความซ่านสยิว ที่เกิดขึ้นเมื่อปลายลิ้นที่เร่าร้อนของเขาแตะลงที่กลางร่องอันเปียกแฉะไปด้วยเมือกแห่งความต้องการที่ทะลักล้นออกมาจากภายในอย่างท่วมท้น ดูเขาจะไม่ใส่ใจกับมันเลย ค่อยๆ แยกขาฉันให้กว้างออกเพื่อเปิดทางสะดวกในการสัมผัส ฉันเสียวมาก ได้แต่แอ่นเนินขึ้นรับกับลิ้นที่สุดแสนจะเก่งกาจของเขา ทั้งกวาด ทั้งตวัดทั้งแยงเขาลึกๆ ตื้นๆ จนฉันถึงกับร้องครางอย่างมีความสุดแบบสุดๆ จนไม่อาจกลั้นต่อไปได้ ร่างเกร็งแน่นสั่นสะท้าน แอ่นโหนกขึ้นอย่างสุด ๆ ทั้งมือ ทั้งขาอ่อนทั้งสองกอดรัดส่วนบนของเขาแน่น โอ…. สวรรค์ อะไรจะสุขปานนี้ …..เขาเก่งเหลือเกิน ฉันก็สุขเหลือเกิน ไม่เคยที่จะสุขแล้วสุขอีกเช่นนี้มาก่อน เขาค่อยๆ เลื่อนกายอันเปลือยเปล่าขึ้นทับร่างร่างฉันอ่อนระทวยด้วยความสุขของฉัน มือไม้ของเขายังคงไม่ลดละจากความนุ่มเนียนบนเรือนร่างของฉัน เขาเริ่มต้นด้วยการประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของฉันเริ่มจูบแบบนุ่มนวล อ่อนหวาน อีกแล้วเห็นว่าฉันชอบรสจูบเขาก็ช่างรู้ใจ รสจูบเขาช่างประทับใจเหลือเกิน เร้าใจ เร้าอารมณ์ได้สุดๆ ไม่เพียงเท่านั้น ส่วนข้างล่างของเข้า ขณะนี้มันยังคงแข็งแกร่ง ไร้ซึ่งสิ่งกีดขวางแล้ว มันกดทับถูไถอยู่ที่ตรงโหนกนูนพอดิบพอดี รู้สึกได้ว่ามันร้อนเร้ายิ่งนัก บางครั้งเมือกแห่งความสุขและความต้องการทั้งสองเราก็ช่วยให้มันเลื่อนไถลซุกเข้าไปตรงซอกขาอ่อนคู่งามที่กลมกลึงของฉัน ซึ่งก็ทำให้อารมณ์ของเรายิ่งเดือดพล่านขึ้นเป็นลำดับ แล้วฉันก็ลูบไล้เอื้อมมือลงไปสัมผัสกับอาวุธแห่งความเป็นชายที่แข็งแกร่งของเขาไว้จนเต็มกำมือ แต่ไม่ค่อยถนัดนักเพราะเขานอนทับอยู่ ฉันจึงผลักเขาให้พลิกตัวนอนหงาย ฉันก็พลิกตัวตามไป ดุ้นเนื้อเขาตั้งชันแข็งโด่โชว์ความแข็งแกร่งอย่างทรนง ถึงขนาดมันจะไม่ใหญ่โตมโหฬารมากนัก (ดูเหมือนว่าทั้งขนาดและความยาวจะด้อยกว่าของสามีด้วยซ้ำไป) แต่มันก็กำลังน่ารัก ไม่ถึงกับเล็กซะทีเดียว ฉันกำมันไว้จนเต็มกำ รูดมันขึ้นลงช้าๆ เสียงเขาทั้งคราง กัดฟันแน่นแอ่นสะโพกด้วยความเสียวซ่าน หลับตาปี๋ คงจะเสียวมากทีเดียว ฉันก้มลงใช้ปลายลิ้นตวัดลงบนส่วนปลายสุดในขณะที่รูดปลายเปิดออก เขาถึงกับสะดุ้งเฮือก เสียงหายในกระเส่า ด้วยความเสียว ฉันเขี่ยถี่ขึ้นและงับเอาดุ้นเนื้อที่น่ารักขนาดย่อม ๆ ของเขาเข้าไว้จนเต็มปาก เขาถึงกับร้องครางเสียงดัง ผงกหัวขึ้นมามองด้วยความตระหนกกับสิ่งที่ฉันกระทำกับแท่งแห่งความเป็นชายของเขา เขามองด้วยสายตาที่สุดซาบซึ่ง ขอบคุณ ปริ่มด้วยความสุข ความเสียว คงจะคิดไม่ถึงว่า ฉันจะกล้าทำให้เขาได้ถึงเพียงนี้(ก็ทำไมจะทำไม่ได้ล่ะ เขาก็คือผู้ชายที่ฉันแอบรักมาตั้งนานแล้วและรักมากที่สุดด้วย ความต้องการต่างๆ ที่ฉันมีต่อเขาก็ไม่ต่างจากที่เขามีต่อฉันหรอก เพียงแต่ฉันไม่สามารถแสดงออกมาให้ใครได้รู้เท่านั้นเอง แต่เวลานี้ ขณะนี้มันเป็นเวลาของเราแล้ว เราอยู่ในโลกของเราทั้งสองแล้ว ซึ่งไม่ได้มีบ่อยนัก สิ่งใดที่เป็นความสุขของเรา เราก็ควรที่จะรีบไขว่คว้าและร่วมกันสร้างมันให้เกิดแก่กันและกันไม่ใช่หรือ) เขาจับศรีษะฉันประคองไว้ ร่างของเขากระตุก เป็นระยะๆ ด้วยความเสียว ฉันกินมันเพราะอยากจะกินไม่ใช่เพราะอยากเอาใจเขา กินมันด้วยความเสน่หา กินมันด้วยความตั้งใจ กินมันเพราะเป็นความสุข กินมันเพราะปรารถนาที่อยากจะกระทำอย่างนี้จริงๆ เขาปล่อยให้ฉันกินจนเขาเสียวจนแทบจะทนไม่ไหว เขาเป็นคนบอกเองว่าพอแล้ว ขอให้ฉันหยุดก่อนเถอะแค่นี้เขาก็สุขมากเหลือเกินแล้ว ขืนทำต่อเขาอาจจะ….จบ… เขาบอกว่ายังเขาต้องการที่จะมีความสุขฉันมากกว่านี้อีก ความหมายคงไม่ต้องอธิบายว่าหมายถึงอะไร เราต่างก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี ความต้องการของเราตรงกัน แต่ฉันก็ทำทีถามเขาว่าเขาต้องการอะไร เขาไม่ตอบแต่เขากลับจับร่างเปลือยเปล่าของฉันนอนหงายลงท่าเดิมแล้วก็โน้มตัวลงมาทับก้มประทับจูบลงที่ปากของฉันก็คำรบหนึ่งฉันก็ตอบสนองเขาด้วยความเต็มใจยิ่ง เราแลกลิ้นกันอย่างสุดมัน ความเร่าร้อนแห่งอารมณ์ต้องการซึ่งกันและกันเพิ่มทวีขึ้นตามลำดับ ดุ้นเนื้อเขายังถูไถอยู่บริเวณท้องน้อยและโหนกเนินสร้างความซ่านและเร้าอารมณ์อย่างที่สุด แล้วเวลาที่เรารอคอย เวลาที่ปรารถนาก็มาถึง เขาแยกขาอ่อนคู่งามฉันออกแทรกร่างเข้ามาที่ตรงระหว่างกลาง ฉันก็ขยับร่างให้นอนสบายเพื่อรอรับความสุขจากเขา ฉันหลับตา ทั้งตื่นเต้นทั้งเร่าร้อน รู้สึกถูกสัมผัสที่กลางร่องเสียววาบไปทั้งร่าง เพราะเขาจับปลายแท่งถูขึ้นลงไปตามร่อง มันเพิ่มความเสียวให้ฉันไม่น้อยทีเดียว แล้วก็รู้สึกว่ามันกำลังมุดแหวกเข้าสู่หลืบแห่งความสุขของฉันช้า ๆ โอ…เสียวเหลือเกิน ฉันแอ่นเนินขึ้นรับมันด้วยความเต็มใจยิ่ง เมือกแห่งความต้องทำให้ ดุ้นนั้นมุดเข้าสู่ภายในหลืบของฉันโดยไม่ยากเย็นนัก กดไม่กี่ที่ก็เข้าไปจนหมดดุ้น ฉันเสียว ซ่านสยิวไปทั่วทั้งร่างกาย ฉันกอดเขาแน่น เขาก็กดร่างเข้าหาฉันแบบเน้นๆ โอ.. ที่รักขา…ทำไมถึงเสียวเหลือเกิน สุขเหลือเกิน ฉันได้แต่คราง และขมิบกล้ามเนื้อภายในร่องหลืบนั้นเพื่อรัดรึงแท่งแห่งความเป็นชายของเขาไว้อย่างรุนแรง สิ่งนี้แหละคือยอดปรารถนาที่ฉันต้องการมากที่สุด ต้องการมานานแล้วด้วย บัดนี้มันได้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด เข้ามาอยู่ในกายของฉันแล้ว ฉันอยากกอด อยากรัดมันแรง ๆ และนานๆ ให้มันซึมซับความรัก ความสุขแก่กันและกันอย่างที่ใจมันต้องการและปรารถนา เขาคงจะเสียวมากไม่แพ้ฉันเมื่อเวลาที่ขมิบแต่ละครั้ง รู้สึกว่าอาวุธเขาก็แข็งกระตุกสู้ตลอดเวลา เขาค่อยบด คลึงสะโพกเน้น กดดุ้นเนื้อให้เสียสีกับเนินและร่อง ยิ่งทำให้เสียวมากขึ้น มือ ปาก จมูกก็ไม่ยอมอยู่นิ่งทั้งคลึง จูบ กิน ชม คราง ปลุกเร้าส่วนบนตลอดเวลา ยิ่งเสียวยิ่งสุข โอ. …ฉันก็ไม่แพ้เขาร้องครางออกมาดังๆ อย่างลืมตัว เขาเร่งจังหวะการบดคลึงเร็วขึ้นจนเป็นกระกระแทกกระทั้นที่บางครั้งรุนแรงบางครั้งก็นุ่มนวล เขาช่างเก่งอะไรปานนั้น และแล้วในที่สุดเราทั้งสองก็ต่างเสียวแบบสุดๆ ร้องครางร่างเกร็งแน่น ภายในเราต่างกระตุกตอดรัดซึ่งกันและกันอย่างรุนแรงฉันกอดเขาแน่น รู้สึกร้อนซ่าในส่วนลึกๆ เสียววูบวาบสุขจนไม่อาจทานทนได้ต่อไป เราต่างก็กอดกันแน่นอย่างเป็นสุขอย่างที่ไม่เคยได้มีมาก่อนเลย คืนนั้นเรานอนกอดก่ายปล่อยให้ส่วนนั้นของเขาแช่คาอยู่ในร่องจนรุ่งเช้า ต้องยอมรับว่าเป็นความสุขที่ประทับใจมากๆ เพราะไม่เคยที่จะสุขติดต่อกันได้หลายครั้งเหมือนกับเขาคนนี้เลย ถึงมันจะเป็นเพียงแค่คืนเดียวแต่ก็ประทับอยู่ในความทรงจำได้ตลอดเวลาไม่เคยลืมเลย คิดถึงทีไรก็ยังมีความสุข…..

1 ความคิดเห็น: